



ยิ่งเวลาเดินหน้ามาไกล โลกก็ยิ่งเจอความท้าทายที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี การสั่นสะเทือนของภูมิรัฐศาสตร์โลก หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หลายประเทศกำลังมองหาแนวทางวิธีการออกแบบนโยบายใหม่ๆ ซึ่งหนึ่งในแนวทางคือ "ห้องปฏิบัติการนโยบาย" (Policy Lab)

Data Visualization รวบรวมข้อมูลจากการกวาดความคิดเห็นของคนบนโลกออนไลน์ (Social Listening) เกี่ยวกับสุขภาพจิตเยาวชน มากกว่า 100,000 ข้อความ และ 10 ล้าน Social Media Engagement
Online
Courses
คอร์สออนไลน์
แพลตฟอร์มส่งต่อและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านนวัตกรรม เชิงนโยบายกับนักออกแบบนโยบายระดับประเทศและนานาชาติ รวมถึงสาธารณชนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ
Participate
Events
ร่วมกิจกรรม
กิจกรรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้าน
นวัตกรรมนโยบายให้กับประเทศไทย
Upcoming
Vocab of The Week
แนะนำคำศัพท์ด้านนโยบาย
Facilitate
หมายถึงจัดกระบวนการ หรือการช่วยให้ทุกคนในวงพูดคุยได้แสดงความคิดเห็นและรับฟังทรรศนะจากผู้อื่นอย่างทั่วถึง ก่อนที่จะสร้างความเข้าใจร่วมกัน หัวใจของการจัดกระบวนการคือการเอื้ออำนวยให้ผู้คนคุยกัน โดยกระบวนกรจะช่วยให้คนในวงพูดคุยได้แบ่งปันความคิดเห็น ออกไอเดีย คิดนอกกรอบ และบริหารบทสนทนาให้อยู่ในประเด็นพูดคุย
ตัวอย่าง
บางครั้งวงพูดคุยมักจะหยิบยกประเด็นที่ละเอียดอ่อน อาจทำให้ให้คนรู้สึกไม่สบายใจมากพอจะบอกเล่าความในใจทั้งหมด ด้วยเหตุนี้กระบวนกรเองจึงจำต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับผู้เข้าร่วม หน้าที่หลักของกระบวนกรคือการกระจายโอกาสในการแสดงความคิดเห็นให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม และสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมรับฟังเรื่องราวของผู้อื่นอย่างตั้งใจ นอกจากนี้เองกระบวนกรยังช่วยสรุปประเด็น คลายข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ และตั้งคำถามที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมคิดได้ลึกซึ้งมากขึ้นอีกด้วย
Ideate
หมายถึงการออกความคิดเห็น ซึ่งเป็นกระบวนการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับทางออก
ให้ได้มากที่สุด มักเกิดขึ้นโดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่าหนึ่งคน และใช้เครื่องมือระดมความคิดต่างๆ เช่น การ brainstorming หรือการถามว่าเราน่าจะทำอย่างไรได้ (How might we?) แม้ว่าคนจะมองว่ากระบวนการนี้คือการเฟ้นหาความคิดที่เป็นประโยชน์เป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วมันคือการคิดว่าเราทำอะไรได้ในสถานการณ์ต่างๆ มากกว่าการหาตัวเลือก
ที่ดีที่สุดอย่างเดียว
ตัวอย่าง
การออกความคิดเห็นคือการรวมกันตั้งคำถามว่า “จะทำต่อไปอย่างไรดี?” ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจำลองสถานการณ์ที่ทุกอย่างประสบความสำเร็จ และค้นหาว่าต้องทำอย่างไรถึงจะไปถึงจุดนั้นได้ ในขณะเดียวกันเอง เราสามารถลองสร้างสถานการณ์ที่ทุกอย่างล้มเหลว และช่วยกันคิดว่าเกิดอะไรขึ้น การตัดสินใจแบบใดที่จะพาเราไปอยู่ในจุดที่ล้มเหลวเพื่อป้องกันและรับมือไว้ก่อน
Spectrum
สเปกตรัม หมายถึง ความหลากหลายของสิ่งต่างๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับระบบไบนารี่ ที่ย่อยความคิดและทรรศะต่างๆ จนเหลือแค่สองขั้วตรงข้ามเท่านั้น เราใช้ชีวิตอยู่ในระบบที่มิติด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมต่างตอบโต้กัน และส่งผลต่อกันและกัน แทนที่จะเพ่งความสนใจไปยังปัญหาไม่กี่จุด นักนโยบายสามารถมองระบบจากทั้ง “สเปกตรัม” หรือมองมิติต่างๆ พร้อมกัน โดยพิจารณาความเชื่อมโยงระหว่างมิติต่างๆ และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามมา
ตัวอย่าง
สาเหตุของการทอดทิ้งคนสูงอายุในครอบครัวอาจมีทั้งปัจจัยส่วนตัวและปัจจัยเชิงโครงสร้าง (เช่น ช่องห่างระหว่างรายได้ของคนรวย-คนจน, การพัฒนาเมืองแบบผลักไสคนจน, ค่านิยมทางเพศที่เหยียดเพศ) ส่งผลต่อความมั่นคงของครอบครัว และศักยภาพในการจุนเจือครอบครัวเช่นกัน
Leverage Point
หมายถึง จุดงัดคาน ซึ่งคือจุดใดจุดหนึ่งในระบบที่ซับซ้อน ที่เป็นจุดตั้งต้นให้เราใช้มาตรการแทรกแซงเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับต่างๆได้ อาจเป็นประเด็นหรือองค์กร เช่น อาทิ องค์กรมหาชน อุตสาหกรรม หรือรัฐสภา ในระบบเหล่านี้ ผู้เล่นและประเด็นต่างๆ ล้วนคาบเกี่ยวกัน การวิเคราะห์ปัจจัยขับเคลื่อนระบบต่างๆ อาทิ กระแสการเปลี่ยนแปลง ความเชื่อ สมมติฐาน จะช่วยให้นักนโยบายพบจุดงัดคานมากมายที่กระจายตัวอยู่ตามปัจจัยต่างๆ
ตัวอย่าง
การเลี้ยงลูกด้วยการดุด่าว่ากล่าวส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพจิตของเด็ก เพื่อท้าทายสมมติฐานเกี่ยวกับคุณค่าครอบครัว เราอาจใช้วิธีกระจายความรู้เกี่ยวกับการรักลูกในแบบที่ปลอดภัยมากขึ้น และพยายามเอาตราบาปออกจากบทสนทาเกี่ยวกับสุขภาพจิต ในขณะเดียวกันเอง วิธีการที่จับต้องได้มากขึ้นอาจจะเป็นการพัฒนาระบบสาธารณสุข โดยช่วยให้คนเข้าถึงการบำบัดและให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูบุตรมากขึ้น