Ahjung Lee ผู้จัดการด้านธรรมาภิบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายประจำ UNDP Seoul Policy Center กล่าวว่า ปัจจุบันเกาหลีเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่มี GDP ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเกาหลีในช่วงหลายปีมานี้ เป็นการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสารทั้งภาคเอกชนและภาครัฐแบบก้าวกระโดด ข้อมูลของสหภาพการสื่อสารนานาชาติระบุว่า ชาวเกาหลี 92.7% ใช้อินเทอร์เน็ต ขณะที่ทั่วโลกใช้เพียง 45% และ 111.5% ต่อประชากร 100 คน สมัครใช้บริการ broadband มือถือ ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกมีแค่ 52.2%
ในแง่การให้บริการสาธารณะ ประเทศเกาหลีเป็นผู้นำธรรมาภิบาลด้านดิจิทัล เช่น เกาหลีได้รับการจัดอันดับตามดัชนีรัฐบาลดิจิทัลปี 2019 ของ OECD ให้อยู่ที่อันดับที่ 1 และเกาหลียังได้อันดับ 1 ตามดัชนีรัฐบาลดิจิทัลของสหประชาชาติอีกด้วย
ประชากรเกาหลียังเข้าถึงอินเตอร์เน็ต WIFI ฟรีโดยเฉพาะย่านธุรกิจ ปลายปีนี้ พ.ศ.2565 จะมีกว่า 23,700 แห่งทั่วประเทศ การทำระบบบริหารแบบออนไลน์ จะช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สาธารณรัฐเกาหลีมีนโยบายสนับสนุนให้ผู้สูงอายุใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นด้วยการให้การศึกษา และจัดหาอุปกรณ์ 300,000 ชุดให้ผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งช่วยให้ผู้สูงอายุ 9,900 คนได้รับการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินด้วยการใช้เทคโนโลยี AI
เทคโนโลยี AI และ Big Data เพื่อปรับปรุงบริการสาธารณะ
กรุงโซลใช้เทคโนโลยี AI เก็บข้อมูลการเดินทางของประชาชนในเวลากลางคืน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ค่าบริการสูง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ระบบขนส่งสาธารณะหยุดบริการ การบันทึกข้อมูลกว่า 3,000 ล้านรายการ ใน 1 เดือน ถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มรอบของระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งสามารถคำนวนความพึงพอใจประชาชนในการเก็บค่าโดยสารที่เหมาะสมได้อีกด้วย ผลที่ตามมาคือระบบรถบัสช่วงกลางคืนของกรุงโซลได้รับคะแนนความพึงพอใจในการให้บริการมากถึง 82 คะแนนจาก 100 คะแนน และทำให้ผู้โดยสารประหยัดค่าเดินทางได้ประมาณ 5.5 เหรียญสหรัฐต่อการเดินทางหนึ่งเที่ยว ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อย
นโยบายพลิกโฉมประเทศสู่ระบบดิจิตอล สร้างความโปร่งใส ลดปัญหาคอร์รับชั่น
การเลือกนโยบายพลิกโฉมประเทศไปสู่ระบบดิจิตอล จะช่วยสร้างความโปร่งใสและให้อำนาจกับประชาชนในการตรวจสอบการคอร์รัปชั่น เช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ
ระบบการก่อสร้างใสสะอาด
คณะผู้บริหารกรุงโซลได้ระดมความคิดกับภาคประชาสังคมและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนา ‘ระบบการก่อสร้างใสสะอาด’ ที่มี 2 องค์ประกอบคือ
- ระบบบริหารจัดการโครงการภายในหรือ One-PMIS ที่เป็นการบริหารจัดการโครงการผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลตั้งแต่เริ่มต้นไปจนสิ้นสุดโครงการ
- การเปิดเผยข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือ “อะลิมี” เป็นภาษาเกาหลีที่แปลว่า “รายงาน” ซึ่งก็คือ ข้อมูลทั้งหมดจากระบบบริหารจัดการโครงการภายใน
ด้วยระบบนี้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าโครงการ และการจ่ายงบประมาณให้กับบริษัทก่อสร้างได้ตลอดเวลาผ่านเว็บไซต์ ทำให้เกิดความโปร่งใสในการบริหารโครงการ ช่วยลดความขัดแย้ง แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมช่วยลดความเหลื่อมล้ำและการคอร์รัปชั่นลงได้
การกำหนดนโยบายที่รอบคอบ และการสร้างความโปร่งใส ที่คำนึงถึงคนชายขอบ จะสามารถนำสังคมเกาหลีสู่สังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง