Published: 01.10.2021

Key Insights

  • เคยจินตนาการไหมว่าประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้อย่างไร? ชวนทำความรู้จัก Thailand Policy Lab
  • Thailand Policy Lab คือห้องปฏิบัติการนโยบายที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสภาพัฒน์กับ UNDP ด้วยความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนและเท่าเทียม
  • ชวนมาเล่น quiz ตอบคำถาม และจินตนาการไปพร้อมๆ กันกับเรา นโยบายคืออะไรกันแน่ และการออกนโยบายแบบไหนที่จะครอบคลุม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุด

Will you believe it if someone tells you Thailand will become a developed country in the next twenty years? Do you entertain this idea as an impossibility, or as extreme optimism? As opposed to that hard-to-believe notion, the path to development is actually achievable, considering the fast-changing world and the active civil society. Development and equality is a dream that can definitely be actualized.

The key and prime accelerator to achieve that is ‘policy making.’ Governmental agencies and private companies invest all their energy and resources to come up with effective policies for a better society. However, the fact of the matter in Thailand is that policies are not fully people-centric.

As a result, the United Nations Development Programme (UNDP) began a veritable collaboration with the Office of the National Economics and Social Development Council and founded the Thailand Policy Lab. The lab aims to create concrete changes to adjust people’s perception towards policy-making, and most importantly to involve the people themselves as part of the policy-making process.

What can the Thailand Policy Lab do? What is our stance? The answer is that we aim to merge innovation into policy-making, for the policies to be swift, universal, while directly responding to the people’s needs, especially now when Thai society truly wants change. Above and beyond that, by utilizing the expertise of the Office of the National Economics and Social Development Council that has direct authority in Thailand’s policy landscape, and by cooperating with the UNDP that has connections with experts  all around the world, the policy lab will be able to change Thailand’s policy-making culture so as to make it more accessible and sustainable.

Policy-making is of the utmost importance, affecting millions of lives. Imagine for a moment that you are tasked to implement a policy;  let’s participate in this quiz and see if you fully understand it, and whether you can find some ways to improve upon, like we are attempting to do.

Question 1

What is a policy?

Answer
เฉลย All choices are correct
Description

มีหลายคำอธิบายเพื่อนิยามคำว่านโนบายในมุมมองที่ต่างกัน แต่ถ้าให้สรุปเพื่อเห็นภาพ นโยบายเปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะนำพาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง ผู้กำหนดนโยบายต้องมีประสบการณ์ มีทิศทางที่ชัดเจน มีเป้าหมาย มีวิธีดำเนินงานที่ผนวกสังคมให้มีส่วนร่วม เพื่อให้นโยบายประสบผลสำเร็จได้เร็วที่สุด คุ้มค่าแก่การลงทุนของรัฐ อย่างไรก็ตามคนไทยจำนวนไม่น้อยมักเคยชินว่านโยบายเป็นสิ่งที่ออกมาจากภาครัฐเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วหน่วยงานไหนๆ ก็สร้างนโยบายขึ้นมาได้ทั้งนั้น ทุกคนสามารถเป็นนักออกแบบนโยบาย (Policy Designer) หรือสามารถมีส่วนร่วมได้

Question 2

What is wrong with traditional policy-making?

Answer
เฉลย All choices are correct
Description

ระยะเวลาเฉลี่ยของการออกนโยบายสักฉบับอยู่ที่ประมาณ 6 เดือนหรือมากกว่านั้น ระยะเวลานี้อาจไม่ตอบโจทย์ต่อบริบทโลกในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความผันผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และไม่ชัดเจนอีกต่อไป ยกตัวอย่างวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งความล่าช้าที่ผ่านไปในแต่ละวันนั้นหมายถึงจำนวนประชากรที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และเสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้า

วิกฤตโควิด 19 จึงตอกย้ำว่า เราต้องการกระบวนการนโยบายที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างนโยบายบนพื้นฐานความเข้าอกเข้าใจ เพราะว่าหากมองว่าการสร้างนโยบายเป็น ‘การลงทุน’ การออกนโยบายที่ไม่ตอบโจทย์ก็จะทำให้รัฐ ‘ขาดทุน’ ในที่สุด

Question 3

Who are the critical stakeholders in policy-making?

Answer
เฉลย 4) The people
Description

ช่วงทศวรรษที่ 90 รัฐแคลิฟอร์เนียต้องเผชิญกับความสูญเสียของวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก หนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตคือการครอบครองปืนได้อย่างถูกกฎหมาย ส่งผลให้ในเวลาต่อมาเกิดนโยบายเพื่อผลักดันให้กฎหมายมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ไม่นานหลังจากนั้น ตัวเลขของวัยรุ่นที่เสียชีวิตจากการถูกยิงลดลงถึง 50%

ในบางประเทศมีนโยบายเรียกว่า ‘Bereavement Leave’ แปลได้ว่า ‘การลางานเนื่องจากความเศร้า’ นโยบายนี้อนุญาตให้ผู้ที่สูญเสียคนรัก และบางครั้งรวมถึงคนที่แท้งลูกและคู่ชีวิตของผู้ที่แท้งลูก สามารถลางานเพื่อดูแลจิตใจตนเองขณะที่ประสบกับความสูญเสีย ประเทศนิวซีแลนด์เพิ่งออกนโยบายนี้เมื่อต้นปีนี้ และบังคับให้นายจ้างต้องจ่ายเงินลูกจ้างตามปกติหากลูกจ้างลางานเพราะแท้งลูก

หรืออย่างในประเทศไทยเองก็มีนโยบายที่น่าสนใจอย่างเงินอุดหนุนเด็กเล็ก ซึ่งมีงานวิจัยของ Unicef พิสูจน์ให้เห็นว่าว่าเงินอุดหนุนเด็กเล็กช่วยให้เด็กมีโภชนาการดีขึ้น และช่วยให้แม่ยากจนเผชิญความเครียดน้อยลง

นโยบายเป็นสิ่งที่ประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรงและมีส่วนได้ส่วนเสียที่สุด แต่ในขณะเดียวกันนโยบายก็ไปไกลกว่านั้น นโยบายที่ดีและมีประสิทธิภาพส่งผลดีกับปัจเจก และส่งผลดีต่อประเทศด้วย อย่างนโยบายดูแลเด็กเล็กนั้นไม่ได้ดีแค่กับเด็ก แต่มีงานวิจัยมากมายบอกเราว่าการที่ประเทศลงทุนกับเด็กเล็ก เป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด เพราะเด็กจะโตไปเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ส่งผลให้ประเทศพัฒนาและมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

Question 4

If a governmental agency desires to implement effective policies, what should they consider?

Answer
เฉลย All choices are correct
Description

การออกแบบนโยบายที่ดี นอกจากจะต้องสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ทันท่วงทีแล้ว ยังต้องคาดการณ์แนวโน้ม และความผันผวนของโลกและประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ สมมติว่าเรากำลังจะสร้างบ้านหลังหนึ่งที่จะอยู่ไปตลอดชีวิต ก็คงอยากได้ทั้งดีไซน์ที่สวย และเหมาะกับคนทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็กถึงผู้สูงอายุโดยไม่ต้องเสียเงินและเวลาปรับปรุงบ้านหลายๆ รอบ

ก่อนการลงมือสร้างบ้านจริงจึงจำเป็นควรสอบถามสมาชิกทุกคนถึงความต้องการ และเงื่อนไขในการดำรงชีวิต เช่น ปัญหาสุขภาพ หรือความพิการ ส่วนความเหมาะสมสำหรับเด็กเล็กสามารถถามเพื่อนที่มีลูกแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความมา หรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ทำให้ไม่เสียเวลา และงบประมาณในการออกแบบบ้านหลายๆ รอบ

บ้านก็เหมือนประเทศ มีประชาชนเป็นสมาชิกในครอบครัว ส่วนเพื่อนบ้านคือประเทศอื่นๆ ที่เราสามารถขอเข้าไปดูข้อดีและข้อเสียของการออกแบบได้ สิ่งเหล่านี้คือ Mindset ที่ดีของนักออกแบบนโยบาย เราทุกคนรู้ดีว่าการออกแบบนโยบายเป็นสิ่งซับซ้อน นักนโยบายต้องทั้งทำความเข้าใจปัญหา หาข้อมูลราวกับเชอร์ล็อก โฮมส์ ต้องประสานงานข้ามหน่วยงาน ต้องฝ่าฝันระบบการทำงาน ฯลฯ แต่เราก็เชื่อมั่นเหลือเกินว่าการออกนโยบายของประเทศสามารถพัฒนาก้าวกระโดดไปอีกระดับได้ หากได้รับการสนับสนุนและผลักดันจากทั้งคนทำงานและสาธารณะ

Question 5

Have you heard of a policy lab? What do you think it is?

Answer
เฉลย 3) A sandbox used to implement a policy before expanding it elsewhere
Description

Policy Lab คือนวัตกรรมนโบายซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึง และปรับใช้กันในหลายประเทศ ถ้าหากเปรียบเทียบอย่างง่าย Policy Lab เหมือนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่ระดับประเทศ สามารถนำผลที่ได้จากการทดลองมาปรับใช้จริงเพื่อสร้างนโยบายสาธารณะที่ดี

ขั้นตอนโดยทั่วไปของ Policy Lab ก็คือ วิเคราะห์ปัญหาเพื่อให้เข้าใจโจทย์ > ลงไปทำความเข้าใจที่มาของปัญหาทั้งต่อบุคคลและต่อสังคม > ระดมความคิดเพื่อสร้างนโยบายใหม่ให้แก้ปัญหาตรงจุด > ทดสอบนโยบายกับคนจริงๆ ก่อนนำไปใช้กับทุกคน

บางคนอาจรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่หัวใจสำคัญของ Policy Lab ก็คือการมีส่วนร่วมของประชาชน ในหนึ่งนโยบายอาจมีหลายหน่วยงานทั้งราชการ และเอกชนมาร่วมเสนอมุมมอง และวิเคราะห์ปัญหาร่วมกัน ต้องเข้าไปสอบถามประชาชนให้เจอ Insight ไม่ใช่แค่การทำแบบสำรวจทั่วไป ก่อนออกนโยบายก็ต้องนำเสนอให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายภาคส่วนว่าน่าจะเป็นประโยชน์จริงไหม หรือขั้นตอนพื้นที่ทดสอบ (Sandbox) ก็ต้องรับฟังทั้งข้อดี และข้อเสียจากผู้เข้าร่วมทุกคน

Policy Lab รื้อความคิดการออกแบบนโยบายจากคนส่วนน้อยเพื่อคนส่วนมาก ตามความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของโลกยุคใหม่ โลกที่ให้ความสำคัญกับ User Experience (UX) มากขึ้น และวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ตอบสนองต่อความหลากหลายมิติวัฒนธรรม และแนวความคิดที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการส่งเสียงและแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายสาธารณะที่ส่งผลต่อชีวิตของประชาชน

Thailand Policy Lab เชื่อมั่นในกระบวนการข้างต้น เราเชื่อมั่นในกระบวนการของ Policy Lab ที่ดำเนินการโดยมีนวัตกรรมเป็นฐาน และเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน กระบวนการออกนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วมและครอบคลุมเท่านั้น จึงจะเป็นนโยบายที่มีประสิทธิภาพได้

Question 6

Which of the following best defines a policy lab?

Answer
เฉลย All choices are correct
Description

วิกฤตการณ์โควิด - 19 เป็นตัวเร่งให้ทุกคนต้องปรับตัว โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงการทำงานในรูปแบบเดิมที่สร้างประโยชน์ได้น้อยลงหากไม่นำเอาความรู้ด้านดิจิทัลเข้าไปปรับใช้

องค์กรขนาดใหญ่ไม่สามารถแค่ทำความเข้าใจเรื่องดิจิทัลในระดับบนได้ แต่ต้องให้เวลากับบุคลากรในการปรับตัว ปรับ Mindset และปรับทักษะในการทำงานด้วย

Agile / Big Data / NextGen Work / Upskill / Reskill คำศัพท์เหล่านี้จึงเข้ามามีอิทธิพลต่อโลกสมัยใหม่โดยเฉพาะในวงการสตาร์ทอัพ เพื่อแก้ไขปัญหาในการทำงานที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่นขนาดขององค์กรที่ใหญ่เกินความจำเป็น หรือบุคลากรที่มีทักษะจำกัด ตามโลกสมัยใหม่ไม่ทัน

ยกตัวอย่างเช่น หากกระทรวงการต่างประเทศต้องการสร้างนโยบายให้ชาวชาติสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ต้องประสานงานกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนเช่นนี้ สามารถใช้หลัก Agile (คล่องแคล่ว) เข้ามาทำงาน และทำแนวทางการทำงานให้เป็นแนวราบ (Flat) คนระดับปฏิบัติการสามารถออกความเห็นได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งความคิดสร้างสรรค์ ผลงานที่มีคุณภาพและรวดเร็ว โดยแชร์ Big Data ชุดเดียวกัน และหาบุคลากรที่ถนัดเรื่องเฉพาะต่างๆ มาให้คำปรึกษา

การเปลี่ยนแปลงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ชั่วข้ามคืน เช่นเดียวกับกระบวนการออกแบบนโยบายสาธารณะ ที่การเปลี่ยนแปลงย่อมต้องใช้เวลา แต่ขณะนี้กระแสธารแหล่งโลกสมัยใหม่ ความตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ และภาคส่วนต่างๆ ได้ไหล่บ่ามาพร้อมขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลง นี่คงถึงเวลาแล้วเช่นกัน ที่เราจะออกวิ่งไปตามกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนวัฒนธรรมของการสร้างนโยบายให้ดีกว่าเดิม

Various countries have established their own ‘Policy Lab’ to change the culture and process of policy-making to be more human-centric and creative. In the UK, there is also a Policy Lab that exists to complement policymaking, proposing new tools and methods. The Policy Lab does not only implement digital tools and technology, but it also changes the whole culture of policymaking. This extends far beyond just using technology.

The UK Policy Lab even asks “Do we really need a meeting?” The question that seems so basic helps provoke thoughts to change meeting culture to be more effective so that it is no longer a waste of time and resources. In another case, the Policy Lab suggests employing ethnography and co-design techniques in policy-making  to better understand human lives behind statistics, and to implement human-centered policies instead of the conventional ones that only see facts and figures. The Policy Lab also hosts workshops for youth to participate in policy-making processes so that the policies take into account the youth’s way of thinking, and gain new insights from the younger generations. These are a few examples of how the Policy Lab works: it is an open space to think, question, and get creative to achieve best results.

In Thailand we have just initiated a policy lab. The results are not concrete yet, but it is an excellent starting point. This kind of new-culture policy cannot be achieved by a small group of people, but requires the participation of all stakeholders, from every part of the country. Even if it is a few years late, there is a future waiting for us to cause change for a better quality of life for all Thais.

Now, can you imagine a better future for Thailand? The Thailand Policy Lab was founded upon such hope. We believe that as a result of the collaboration between the Office of the National Economics and Social Development Council and the UNDP, the innovation-based process and the participation of the people in policy-making will change Thailand for the better towards a secure, equal, and sustainable future. We believe that a new policy-making culture can change it all over.

งานของเรา
สำรวจการนำนวัตกรรมมาออกแบบนโยบาย
คลังความรู้
เรียนรู้ด้านนโยบายสาธารณะ
ร่วมกับเรา
ออกแบบนโยบายกับเรา
Back to Top